Category Archives: อิตาลี

Pisa, Italy

ปิซา (Pisa) เมืองปิซ่า อยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นโทสคานา ประเทศอิตาลี อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร  การเดินเท้าชมเมืองปิซ่าสร้างความเพลิดเพลินไม่น้อยกับบรรยากาศสบายๆเนื่องจากเมืองปิซ่านั้นเป้นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงมาก
สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ
จตุรัสดูโอโม แห่งปิซา  กัมโป เดย์ มีราโกลี (Campo dei Miracoli) “กัมโป เดย์ มีราโกลี” ซึ่งมีความหามายว่า ” จัตุรัสอัศจรรย์ ” ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกปี ค.ศ 1987ในชื่อ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพง ใจกลางเมืองปิซา
  • มหาวิหารปิซา (Duomo)  หอเอน (Torre pendente di Pisa หรือ La Torre di Pisa)
    เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ค.ศ.1987 หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศโดยยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza Dei Miracoli หอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย
  • หอศีลจุ่ม (Baptistery) หรือเรียกอีกอย่างว่า หอล้างบาป เป็นคริสต์ศาสนสถาน ที่สร้างเป็นอิสระจากสิ่งก่อสร้างอื่นโดยมีอ่างศีลจุ่มเป็นศูนย์กลาง หอศีลจุ่มอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของวัดหรือมหาวิหารซึ่งมีแท่นบูชา และคูหาสวดมนต์ของตนเอง ในวัดสมัยคริสเตียนยุคแรก หอศีลจุ่มจะเป็นสถานสำหรับผู้จะเข้ารีตเรียนรู้เรื่องศาสนาก่อนจะรับศีลจุ่ม และเป็นที่ทำพิธีรับศีลจุ่ม
  •  สุสานนักบุญ (Campo Santo)
  • Giardino Scotto
  • Botanical Garden จะได้พบกับต้นไม้หลายหลากพันธ์ สวยงามนับว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนที่นี่ อยู่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยของที่นี่
  • พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา (Museo del Opera del Duomo)

Venice, Italy

Venice เวนิส มหานครบนผิวน้ำ อีกเมืองหนึ่งที่น่าเที่ยวของอิตาลี มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ติดอันดับเมืองที่สวยในระดับต้นๆของโลก ได้สมญานามต่างๆ เป็นเมืองแห่งสายน้ำ (City of  Water ), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges)  เนื่องจากเมืองถูกสร้างขึ้นด้วยการเชื่อมเกาะเล็กๆด้วยสะพานน้อยใหญ่กว่า 400แห่ง เข้าด้วยกัน, และเมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เสน่ห์ของที่นี่คือน้ำที่ใสสะอาด การได้นั่งเรือกอนโดล่า ล่องไปตามคลองเล็ก คลองน้อย เป็นความโรแมนติกที่หาจากที่อื่นไม่ได้เลยvenedig001
San Marco มหาวิหาร และจตุรัสซานมาร์โค  เป็นอาคารที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ อาหรับ โรมันเนสก์ เรอเนซองซ์ เข้าไว้ด้วยกัน มียอดโดมแบบอาหรับ, ด้านนอกจตุรัส กว้างขวางรายล้อมไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรม จุดศูนย์กลางของเกาะเวนิส รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง มหาวิหารซานมาร์โค ซึ่งเดิมที่เป็นโบสถ์ส่วนตัวของผู้ครองเมืองในสมัยนั้น, พระราชวังดอจส์ (Doge’ s Palace), หอระฆัง สูงเป็นจุดชมวิวอีกจุดที่น่าสนใจ มองเห็นวิวเมืองทั้งเมือง, ลีโอเน่ (Lione) รูปปั้นสิงโตตัวใหญ่ติดปีกพร้อมถือหนังสือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเวนิส.
Palazzo Ducale พาลาซโซ ดูคาเล อาคารที่อยู่ข้างๆ มหาวิหารซานมาร์โก้ ซึ่งเป็นที่ทำการ บริหารกิจการ งานเมือง.
Murano glass แก้วมูราโน เครื่องแก้วชั้นดี มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองไม่ควรพลาด ที่จะมีเก็บไว้ชื่นชม หรือเป็นของฝากทีติดไม้ติดมือ เมื่อได้ไปเยือนเวนิส ซึ่งที่นี่เป็นศูนย์กลางการผลิตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 หากมีโอกาสได้ร่วมชมสาธิตการเป่าแก้ว ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดทีเดียว.
Venice Carnival เทศกาลสวมหน้ากาก งานคาร์นิวัลประจำปี เรียกว่าเป็นจุดขายของเมือง มีการจัดขบวนพาเหรด แต่งตัวด้วยสีสัน สไตล์ต่างๆ จุดเด่นอยู่ที่แต่คนจะสวมหน้ากาก สังเกตุได้ว่าทั้งเมืองมีหน้ากากเป็นของที่ระลึกขายเต็มไปหมด แม้จะไม่ใช่เทศกาลก็ตาม งานจะถูกขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ในทุกๆปีโดยประมาณ.
Ponte di Rialto สะพานรีอัลโต้ ชื่อสะพานที่โด่งดังที่สุด สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ มีเวลาสักหน่อยนั่งเล่น ชมวิว ดื่มกาแฟ เฝ้าดูผู้คนไปพลางๆ ได้ความเพลิดเพลินไม่น้อย.

Rome

กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ตั้งแต่ ค.ศ. 1870 ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,800 ปี และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมาย ราชอาณาจักรโรมัน สาธารณรัฐโรมัน และจักรวรรดิโรมัน โรมเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตก ในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก  โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน
ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์ อีกด้วย
สถานที่น่าสนใจ
rome002
พระราชวังวาติกัน(
Vatican Palace)
ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์กลางการปกครองของศาสนาคริสต์ เเละยังเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตปาปาประมุขฝ่ายศาสนาคริสต์ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลกใช้ประกอบพิธีกรรม ทางศาสนาต่างๆเป็นงานสถาปัตยกรรมที่งดงามลวดลายวิจิตรด้วยฝีมือศิลปินชาวอิตาลีหลายคนหลายยุคสมัย มียอดปราสาทมากถึง 135 ยอด เเละห้องต่างๆมากถึงสี่พันห้องนับเป็นงานก่อสร้างที่งดงามเเละมหัศจรรย์อีกเเห่งหนึ่งของโลก ภายในจะมีจุดสนใจของผู้ที่มาท่องเที่ยวก็คือ รูปภาพ ปิเอต้า(Pieta) สร้างสรรค์โดย ไมเคิลแองเจโล่ เป็นศิลปะ สมัยยุดเรนาชองต์ อยู่ใน มหาวิหารวิหารเซ็นต์ ปีเตอร์ เภาพของพระแม่มารีย์ ทรงโอบอุ้มพระเยซูก่อนที่ท่านจะสิ้นใจ นอกจากนั้นยังมีศิลปะหลายแขนงให้ชมมากมาย
 โคลอสเซียม(Colloseum)
สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ อยู่ใจกลางกรุงโรมสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรโรมัน อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทราย สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยสร้างเป็นรูปวงรีเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา การออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2550 โคลอสเซียมได้รับเลือกให้เป็น 1ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
น้ำพุเทรวี่ (Trevi fountain)
เป็นน้ำพุที่สวยงาม มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก สร้างขึ้นในปี 1732 แล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้นได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่าหากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ ผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกครั้ง
บันไดสเปน (Piazza di spagna )
หนึ่งในจุดที่สวย และน่าสนใจ ในกรุงโรม เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในยุโรป มีทั้งหมด 138 ขั้น  วันอากาศดีๆ ผู้คนจะมานั่งพักผ่อนพบปะกัน ติดกับย่านชอปปิ้งที่หรูหราที่สุดของเมือง มีซอยเล็ก ซอยน้อย ให้ท่านจะได้เดินเที่ยวชมและช้อปปิ้งอย่างเพลิดเพลินRome001