Tag Archives: Egon Schiele

Oslo

Oslo เมืองหลวงของนอร์เว เล็กๆ น่ารัก ถ้าไปเยือนในฤดูร้อนคงจะร่าเริงกว่านี้ แม้ในฤดูหนาวอากาศจะเย็นมาก ก็ยังเพลิดเพลินไม่น้อย

1

Frogner Park สวนกว้างใหญ่มาก ต้นไม้เรียงเป็นระเบียบ สวยงาม คุณจะเพลิดเพลินไม่น้อยกับการจัดแสดงปฎิมากรรม (Vigeland Sculpture Park) เรื่องวัฏจักร รูปสลักเหมือนจากหินแกรนิต รูปหล่อคนด้วยสำริด แกะสลักรูปทรงต่างๆ แสดงอารมณ์, ความหมายต่างกันออกไป เดี่ยวบ้าง, คู่บ้าง, เป็นกลุ่มเล็ก,กลุ่มใหญ่ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก บางชิ้นให้ความรู้สึกถึงความร่าเริง, ความสุข, ความทุกข์ทรมาน, ความเสียใจ, ความอาลัยและความอ่อนแอ ไม่ว่าความรู้สึกไหน คุณจะเห็นว่าทั้งหมดเป็นการแสดงออก ของความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ทั้งสิ้น
.. เด็กน้อยขี้โมโห (Angry Boy) ดูเหมือนจะเป็นขวัญใจของทุกๆคน ใครผ่านมาเยือนต้องไปยืนจับลูบคลำ สังเกตุได้จากมือมั้งสองข้าง ไม่เป็นสีดำ นจับกันมากจะเห็นสีองข้างใน ซึ่งแตกต่างจากรูปอื่นอย่างสิ้นเชิง นี่น่าจะเป็นที่สุด ทุกคนต้องมีอารมณ์นี้ อารมณ์โมโห อารมณ์เด็กน้อย
Karl Johanes Gat ถนนช้อปิ้งเส้นสำคัญ ร้านค้า ร้านอาหาร มากมาย ต้นถนน จะเห็น Dome Kirche ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญของเมือง แม้จะเล็กๆ ไม่อลังการแต่ภายในโบสถ์สวยทีเดียว
 The Nobel Peace Centre การจัดแสดงเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ทุกๆ ราย
Schloß รอบๆเป็นสวนกว้างใหญ่ให้เดินเล่นอย่างเพลิดเพลิน จังหวะดีๆจะเห็นการเปลี่ยนขบวนเวร ทหารยามเป็นสิบนาย เดินตบเท้าเข้าจังหวะ ด้วยควาใพร้อมเพรียง น่าดูชมไม่น้อย
Parliament อาคารสวยงาม ตั้งหันหน้าชนกับ National theater โดยมีลานอเนกประสงค์กั้นตรงกลาง และสถานีรถไฟ
3
พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง  น่าสนใจทีเดียว ที่มีเรือไวกิ้งอายุเป็นพันปีให้ชม
Ski Jump Tower อยู่ห่างเมืองออกไปสักหน่อยแต่การเดินทางสะดวกสบายมาก
Eis bar โดย Eis hotel บาร์เล็กๆ ตั้งอยู่ไม่ห่างออกไป ข้างในบาร์ทั้งหมด ประกอบไปด้วยน้ำแข็งทั้งหมด เก้าอี้ โต๊ะเครื่องดืม บาร์เครื่องดื่ม แก้วซึ่งเป็นแบบใช้ครั้งเดียว พิเศษ หากใครต้องการที่จะลองแกะสลักน้ำแข็งก็ทำได้ เจ้าหน้าที่(คนเดียว)จะนำก้อนน้ำแข็งขนาดย่อมๆ มาวางบนโต๊ะค้อน และสิ่ว ให้เคาะ แกะ ตามแบบที่ต้องการ แต่เท่าที่เห็นไม่มีใครแกะออกมาเป็นรูปเป็นร่างเลย ช่วงเวลาสั้นในโลกน้ำแข็งเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจทีเดียว ว่ากันตามจริงให้ไปใช้บริการในโรงแรมน้ำแข็งเป็นเวลานานๆ เหมือนอยู่โรงแรมทั่วไป ต้องบอกเลยว่า ขอตัวค่ะ ..

2

Krumlov, Czech

เชสกี ครุมลอฟ ( Český Krumlov) Krumlov มาจากภาษาเยอรมัน Krumau หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ชาวเชค พยายามที่จะไม่ให้เป็นภาษาเยอรมันจึงเรียกว่า เชสกี ครุมลอฟ เมืองขนาดเล็กในภูมิภาคโบฮีเมียใต้ของสาธารณรัฐเชค มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรม ศิลปะของเขตเมืองเก่า และปราสาทครุมลอฟ ซึ่งเขตเมืองเก่านี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ปราสาทครุมลอฟเป็นปราสาทใหญ่เป็นอันดับ2 ของเชค  รองจากปราสาท Hradčany ที่ตั้งอยู่ ณ. กรุงปราก ตัวปราสาท ถือว่าใหญ่มากเมื่อเทียบกับตัวเมืองที่มีพื้นที่นิดเดียว ใกล้ปราสาทมี อุทยานแห่งชาติ Sumava ซึ่งใหญ่ที่สุด เป็นเมืองมรดกโลกที่เงียบสงบ งดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย มีชีิวิตชีวา มนต์เสน่ห์้ของเมืองนี้ คือการมองเห็นหลังคาสีแดงของบ้านหลังเล็กหลังน้อยที่เรียงรายเบื้องล่าง (ดังรูปของจิตกรชื่อดัง Egon Schiele ในปราสาท เบลเวเดียร์ ณ.กรุงเวียนนา) ก่อนปี คศ. 1918 เชคเป็นหนึ่งในอาณาจักรจักรวรรดิ์ออสเตรีย
ทัวร์ เชสกี ครุมลอฟ

Prague, Czech

กรุงปราก (Prague) เป็นเมืองที่มีความงดงามแบบเทพนิยาย ทำให้แม้แต่นักท่องเที่ยวที่อ่อนล้ายังต้องหยุดเพื่อถ่ายภาพ ทางกายภาพกรุงปรากแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยแม่น้ำวัลตาวา ซึ่งไหลจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือและเลี้ยวไปยังทิศตะวันออก กรุงปรากประกอบด้วยเมืองที่เป็นเอกเทศต่อกันทั้งสิ้น 5 เมือง  1. Hradčany (คาสเซิ่ล แอเรีย)   2. Malá Strana (เลสเซอร์ ควอเตอร์)  3. Staré Město (โอลด์ทาวน์) 4. Nové Město (นิวทาวน์) 5. Josefov (จูวิช ควอเตอร์)  ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของกรุงปรากมาจนถึงทุกวันนี้ทั่วทั้งเมืองเชื่อมต่อกันด้วยถนนคดเคี้ยวและตรอกซอยที่นำไปสู่แหล่งช็อปปิ้ง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในสัมผัสเมืองนี้การการเดินเท้า
Hradčany คือ ตั้งอยู่ใจกลางของ Pražský hrad (ปราสาทปราก) เป็นกลุ่มอาคารสีขาวที่เชื่อมต่อกันรอบ ๆ หอสวดมนต์ที่มีหลังคายอดแหลม ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำงานของประธานาธิบดี ปราสาทปรากตั้งเด่นสง่าอยู่บนยอดเนินเหนือตัวเมืองทางด้านตะวันตกของแม่น้ำวัลทาวามีบันไดทอดจากHradčany ลงมายัง Malá Strana, Malá Strana เลสเซอร์ ควอเตอร์ ย่านที่แน่นขนัดไปด้วยแมนชั่นหรูหรา สร้างขึ้นสำหรับชนชั้นสูงในช่วงศตวรรษที่ 17-18 มีสะพานที่มักลางเลือนอยู่ในสายหมอกอย่าง Karlův most (สะพานชาร์ลส) เป็นจุดเชื่อมเลสเซอร์ ควอเตอร์ กับ Staré Město  โอลด์ทาวน์เข้าด้วยกัน Staré Město โอลด์ทาวน์ ย่านที่ถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำวัลตาวา และถนนใหญ่ย่านการค้า 3 สาย ได้แก่ ถนน Revoluční ทางด้านตะวันออก ถนน Na příkopě ด้านตะวันออกเฉียงใต้และถนน Národní třída ที่มุ่งไปทางทิศใต้ หมู่ตึกที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของสะพาน และมีความสำคัญกับย่านนี้อย่างยิ่งคือ Staroměstské náměstí (จัตุรัสโอลด์ทาวน์) เคยเป็นตลาดการค้าในยุคกลาง ล้อมรอบด้วยบ้านยุคบารอค
จุดท่องเที่ยว
ปราสาทปราก (Prague Castle) สร้างในปี ค.ศ.885 ศูนย์กลางแห่งอำนาจของราชวงศ์เช็กมานานหลายร้อยปี เคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็ก ปราสาทปรากเป็นปราสาทยุคกลางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันบางส่วนรัฐบาลทำเป็นทำเนียบประธานาธิบดี
มหาวิหารเซนต์วิตุส (St. Vitus Cathedral) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ด้วยศิลปะแบบโกธิค แต่แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1929 เป็นที่เก็บมงกุฎเพชรซึ่งทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้เมืองปราก

Exif_JPEG_PICTURE

โบสถ์เซนต์นิโคลัส งดงามด้วยศิปละแบบบารอค
โบสถ์พระแม่ (Church of Our Lady Before Týn) เป็นสถานที่สำคัญ และะเป็นโบสถ์หลักของเขตเมืองเก่ามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 หอคอยของโบสถ์สูง 80 เมตร และมียอดเล็ก ๆ 4 แห่งอยู่โดยรอบ ภายในโบสถ์มี pipe organ ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปราก
จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Town Hall Clock) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า แวดล้อมด้วยสถาปัตยกรรมบารอค กอธิคและรอโคโคที่อลังการ จัตุรัสเมืองเก่าเป็นอีกย่านที่น่านั่ง มีคาเฟ่หลายร้านให้เลือก คุณอาจจะเช่าม้าหรือรถม้านั่ง เดินสำรวจตลาด หรือแม้แต่ชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ หอนาฬิกาออสโตรโนมิคอล (Astronomical Clock) ซึ่งเป็นจุดนัดพบยอดนิยม
สะพานชาร์ลส์  เมื่อปี 1357 สะพานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่สะพานจูดิธซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ในปัจจุบัน สะพานชาร์ลส์เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในกรุงปราก สวยโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน และมีบรรดาพ่อค้าและเหล่านักแสดงอยู่ประปราย ทัศนียภาพของสะพานนี้จะสวยงามยิ่งขึ้นในช่วงเช้าตรู่และยามตะวันตกดิน
ชุมชนชาวยิวโยเซฟอฟ (พิพิธภัณฑ์และโบสถ์เก่า-ใหม่) – เป็นชุมชนชาวยิวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ตั้งชื่อตามจักรพรรดิ์โยเซฟที่สอง ประกอบด้วยโบสถ์ยิว 6 หลัง ตามรอยประวัติศาสตร์ที่แสนเศร้าของชาวยิวได้ที่พิพิธภัณฑ์ชาวยิว
อาคารที่ทำการเทศบาล  พระราชวังแบบอาร์ต นูโวแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1905 ถึง 1912 และมีคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง (สเมตาโนวา ฮอลล์) อย่าพลาดกาแฟที่ Municipal House Kavárna ที่สวยงามขึ้นชื่อ
เนินเขาเปตรีนและรถเคเบิลไฟฟ้า  เนินเขาเปตรีน เยี่ยมชมหอสังเกตการณ์เปตรีน จากหอคอยคุณจะได้ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมือง
จัตุรัสเวนเซสลัส (Václavské náměstí) สัญลักษณ์ของกรุงปรากยุคใหม่ แหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่เอฟรอปาซึ่งเป็นศิลปะแบบอาร์ต นูโว และอนุสาวรีย์เซนต์เวนเซสลัส
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก จัดแสดงงานนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่ปี 1891 ในอาคารประดับตกแต่งอย่างสวยงาม / ชมวิวสุดอลังการของจัตุรัสเวนเซสลาสจากชั้นบน

Schönbrunn

Schönbrunn พระราชวังเชินบรูนน์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญของเวียนนา ประกอบด้วยตัวปราสาท, สวนสัตว์ และอุทยาน ในปี คศ. 1996 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ ณ.ที่ราชวังแห่งนี้ เป็นสถานที่ประสูติ เติบโต และสวรรคต (ค.ศ. 1848-1916) ของกษัตริย์ องค์สำคัญของออสเตรีย พระเจ้าฟรานซ์โจเซฟ (Franz Josef) พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ เมื่อพระชนมายุได้้เพียง 18 พรรษา และครองราชย์นานถึง 68 ปี ที่นี่จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของพระองค์ และพระมเหสี พระนางอลิซาเบธ หรือ ซีซี (Sisi) มากมาย ตัวปราสาทสวยงาม หรูหรา สร้างขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซาย ของฝรั่งเศส  มีห้องทั้งหมด 1,441 ห้อง ปัจจุบันเปิดให้เข้าชม 40 ห้อง ที่พระนางมาเรีย เทเรเซีย ทรงโปรดให้ปรับปรุงเป็นพระราชวังฤดูร้อน ส่วนของอุทยานมีเนื้อที่กว้างขวาง ประกอบด้วย น้ำพุ อาคารโรมันจำลอง รูปปั้นหินแกะสลัก อาคารด้านหลังสุด ของอุทยาน มีชื่อว่าโกลเรียตต์ (Gloriette) อยู่บนยอดเนิน ณ.ตรงนี้สามารถ มองเห็นวิวอันสวยงามของเมืองเวียนนา ตัวอาคารประกอบด้วยมีซุ้มโค้ง 11 ซุ้ม ยอดบนสุดของอาคารมีสัญลักษณ์ของราชวงศ์แฮบส์บวร์ก  คือ รูปนกอินทรีเหยียบลูกโลก  และด้านขวาของอุทยานเป็นสวนสัตว์เวียนนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

Belvedere Palace

พระราชวังเบลเวเดียร์ ( Belvedere Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนลาดเชิงเขา สร้างขึ้นตามศิลปะบาร็อกในปี ค.ศ. 1715-1723  เพื่อใช้เป็นที่พระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย (Prince Eugene of Savoy) ผู้นำกองทัพแห่งราชวงศ์แฮบส์บวร์ก ที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน  พระราชวังถูกออกแบบให้สร้างเป็นสองส่วน โดยมีสวนขนาดใหญ่เชื่อมระหว่างสองอาคาร
– Lower Belvedere หรือ ปราสาทเบลเวเดียร์ล่าง ส่วนนี้เคยเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของเจ้าชายยูจีน ปัจจุบัน เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะออสเตรีย ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงยุคปัจจุบัน  ค่าเข้าชม ส่วนนี้ 8 ยูโร.
– Upper Belvedere หรือปราสาทเบลเวเดียร์บน ส่วนนี้ทั้งหรูหราสง่างามกว่า ใช้เป็นที่รับรองแขกจัดงานเลี้ยงรื่นเริงสังสรรค์ รอบๆ อาคารประดับด้วยรูปปั้นสฟิงค์ ซึ่งถือได้ว่าแปลกไปกว่าที่อื่นๆ  จากส่วนนี้มองไปด้านล่างจะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามทีเดียว ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพเขียน ออสเตรียนแกลเลอรี (Österreichische Galerie หรือ Austrian Gallery)  ซึ่งถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ภาพเขียนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  จัดแสดงผลงานภาพเขียนของศิลปินดังๆ หลายท่านรวมทั้งศิลปินชาวออสเตรียน กุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) ภาพเขียนที่โด่งดังที่สุดในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นภาพวาดแบบอาร์ตนูโวที่ชื่อว่า The Kiss ว่าักันว่าถ้ามาพระราชวังแห่งนี้แล้ว ไม่ได้เข้าชมภาพ “The Kiss”  ถือว่ามาไม่ถึง  ค่าเข้าชมส่วนนี้ 8 ยูโร
การซื้อบัตรเข้าชม ควรเลือกแบบเบ็ดเสร็จคุ้มกว่าสามารถเข้าชมได้ทั้ง 2ส่วน

Belvedere