Tag Archives: ทัวร์ยุโรปโดยคุณอัยย์

Karlory Vary

Karlory Vary / คาร์โลวี วารี ภาษาเยอรมันเรียกว่า Karsbad แปลว่า บ่อน้ำพุร้อนของคาร์ล ตามตำนานเล่ากันว่า พระเจ้าชาร์ลที่ 4 ของเช็ค ออกมาล่าสัตว์ หมาล่าเนื้อของท่านตกลงไปในบ่อ จึบทำให้รู้ว่าที่นี่มีน้ำพุร้อนคุณภาพเยี่ยมมากมาย ในปีค.ศ.1370 ได้ก่อตั้งเมืองขึ้น และกลายเป็นเมืองตากอากาศ และกลายเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของเชคIMG_0538IMG_0560
การเที่ยวเมืองนี้ หนีไม่พ้นการเดินชมเมือง ซึ่งก็ทำได้อย่างง่ายดาย มีทางเดินเท้า เลียบแม่น้ำ ซึ่งจะนำคุณผ่านสิ่งที่น่าสนใจต่าง น้ำพุร้อนขนาดใหญ่  พิพิธภัณฑ์ภูมิภาค อาคารมิลโคโลนเนด โรงแรมแกรนด์ปัพป์โฮเต็ล และร้านบูติกจำนวนมาก , ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ และภัตตาคาร ตลอดทางเดินจะมี น้ำพุน้ำแร่ ให้ลิ้มรสกัน การดื่มน้ำแร่ มีวิธีการพิเศษ ต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้วที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ และจะต้องจิบทีละน้อย เนื่องจากน้ำแร่ มีอุณหภูมิสูง 30, 50 และ 72 องศาเซลเซียส
ปัจจุบัน ชื่อเสียงด้านสปาก็ยังคงอยู่ การรักษาโรคได้ถูกพัฒนาขึ้น ใช้การบำบัดตามธรรมชาติควบคู่ไปกับการรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่ คาร์โลวี วารี จึงมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะพากันหลั่งไหลมาตากอากาศที่นี่ นอกจากจะได้พักผ่อนแล้ว ยังได้สัมผัสกลิ่นอายความยิ่งใหญ่ของอดีตที่มีอยู่ทุกหนแห่งอีกด้วย
 สถานที่น่าสนใจในเมืองคาร์โลวี วารี
Russian Orthodox Church of St. Peter and St. Paul โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ และเซนต์ปอลนิกายออร์โธดอกซ์รัสเซีย ซึ่งสร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกับมหาวิหารในออสตานคิโน ในกรุงมอสโกHotel Pupp
Municipal Theatre โรงละครเทศบาล  เป็นหนึ่งในจำนวนอาคารมากมาย ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกเฟลเนอร์และเฮลเมอร์ คิลเลียน อิกแน็ค ไดน์เซนโอเฟอร์ ที่ออกแบบโบสถ์เซนต์แมรีแมกดาลีน (Church of St.Mary Magdalene) ในสไตล์บารอก
Jan Becher Muzeum พิพิธภัณฑ์แจนบีเชอร์ ชมโรงงานที่พวกเขาผลิตเครื่องดื่มพิเศษ ที่ไม่เหมือนใครโดยการ ดองถุงสมุนไพรผสมในแอลกอฮอล์ และต่อจากนั้นก็นำแอลกอฮอล์ที่ดองกับสมุนไพรเหล่านั้นแล้วไปใส่ในถังไม้โอ๊กIMG_0580
Grandhotel Pupp โรงแรมแกรนด์ปัพป์ โรงแรมแกรนด์ปัพป์โฮเต็ลที่สวยงามแห่งนี้ ตั้งอยู่บนจตุรัสมิโรเว สร้างขึ้นในปี 1895 ใช้เป็นที่พักของดาราที่มาร่วมงานคาร์โลวี วาร์ ฟิล์ม เฟสติวัล และใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เจมส์บอนด์  “คาสิโน รัวยาล”
Chateau Hill ชาโตว์ฮิลล์ พัฒนารวมเข้ากับอาคารคอมเพล็กซ์ชาว์โตว์บาต โครงสร้างโดยสถาปนิกโอมานน์ ตกแต่งแบบอาร์ตนูโว
Cable car to the Diana lookout point รถเคเบิ้ลจุดชมวิวไดอาน่า เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเมือง, รอบๆในมุมมอง 360 องศาIMG_0889

Heidelberg

Heidelberg เมืองที่มีปราสาทแสนสวยบนเนินเขา เมืองมรดกโลก UNESCO ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเนคคาร์ (Neckar River) ก่อตั้ง ปี ค.ศ.1050 ยุคจักรวรรดิโรมัน เรืองอำนาจ มีร่องรอยของอาคาร ทางเดิน แบบชาวโรมันให้เห็น เวลาต่อมาก็เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า การอุตสาหกรรม ของประเทศเยอรมนี และเคยมีกษัตริย์ปกครอง เมื่อถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2, ช่วงทศวรรษที่ 1930 ผู้นำนาซี ใช้เมืองนี้ เป็นที่ตั้งเป็นที่บัญชาการทางทหาร หน่วยระดมพลทหารเรือนแสน ยุคนี้เอง จากเมืองเทพนิยายได้กลายเป็นเมืองแห่งสงคราม ซึ่งถูกบอมบ์อย่างหนัก, ปัจจุบันที่ทำการรัฐสภาที่ฮิตเลอร์เคยยกมือขวาขึ้นสาบานตนต่อเหล่าทหาร กลายเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม เป็นศูนย์ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ที่เมืองนี้คุณจะสามารถสัมผัสถึงความมั่งคั่งทางศิลปะ และวัฒนธรรม

  • Church of the Holy Spirit  โบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไฮเดลเบิร์ก
  • Hauptmarkt ตลาดท้องถิ่น และตลาดสำหรับนักท่องเที่ยว
  • Kaiserburg Castle ปราสาทในเทพนิยาย ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1300 ขึ้นไปบนเขามองเห็นวิว 180 องศา วิวสวยงามทีเดียว

113IMG_0042IMG_0032

Belvedere Palace

พระราชวังเบลเวเดียร์ ( Belvedere Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนลาดเชิงเขา สร้างขึ้นตามศิลปะบาร็อกในปี ค.ศ. 1715-1723  เพื่อใช้เป็นที่พระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย (Prince Eugene of Savoy) ผู้นำกองทัพแห่งราชวงศ์แฮบส์บวร์ก ที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน  พระราชวังถูกออกแบบให้สร้างเป็นสองส่วน โดยมีสวนขนาดใหญ่เชื่อมระหว่างสองอาคาร
– Lower Belvedere หรือ ปราสาทเบลเวเดียร์ล่าง ส่วนนี้เคยเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของเจ้าชายยูจีน ปัจจุบัน เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะออสเตรีย ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงยุคปัจจุบัน  ค่าเข้าชม ส่วนนี้ 8 ยูโร.
– Upper Belvedere หรือปราสาทเบลเวเดียร์บน ส่วนนี้ทั้งหรูหราสง่างามกว่า ใช้เป็นที่รับรองแขกจัดงานเลี้ยงรื่นเริงสังสรรค์ รอบๆ อาคารประดับด้วยรูปปั้นสฟิงค์ ซึ่งถือได้ว่าแปลกไปกว่าที่อื่นๆ  จากส่วนนี้มองไปด้านล่างจะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามทีเดียว ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพเขียน ออสเตรียนแกลเลอรี (Österreichische Galerie หรือ Austrian Gallery)  ซึ่งถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ภาพเขียนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  จัดแสดงผลงานภาพเขียนของศิลปินดังๆ หลายท่านรวมทั้งศิลปินชาวออสเตรียน กุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) ภาพเขียนที่โด่งดังที่สุดในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นภาพวาดแบบอาร์ตนูโวที่ชื่อว่า The Kiss ว่าักันว่าถ้ามาพระราชวังแห่งนี้แล้ว ไม่ได้เข้าชมภาพ “The Kiss”  ถือว่ามาไม่ถึง  ค่าเข้าชมส่วนนี้ 8 ยูโร
การซื้อบัตรเข้าชม ควรเลือกแบบเบ็ดเสร็จคุ้มกว่าสามารถเข้าชมได้ทั้ง 2ส่วน

Belvedere