Tag Archives: ทัวร์ไทยในปราก

Karlory Vary

Karlory Vary / คาร์โลวี วารี ภาษาเยอรมันเรียกว่า Karsbad แปลว่า บ่อน้ำพุร้อนของคาร์ล ตามตำนานเล่ากันว่า พระเจ้าชาร์ลที่ 4 ของเช็ค ออกมาล่าสัตว์ หมาล่าเนื้อของท่านตกลงไปในบ่อ จึบทำให้รู้ว่าที่นี่มีน้ำพุร้อนคุณภาพเยี่ยมมากมาย ในปีค.ศ.1370 ได้ก่อตั้งเมืองขึ้น และกลายเป็นเมืองตากอากาศ และกลายเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของเชคIMG_0538IMG_0560
การเที่ยวเมืองนี้ หนีไม่พ้นการเดินชมเมือง ซึ่งก็ทำได้อย่างง่ายดาย มีทางเดินเท้า เลียบแม่น้ำ ซึ่งจะนำคุณผ่านสิ่งที่น่าสนใจต่าง น้ำพุร้อนขนาดใหญ่  พิพิธภัณฑ์ภูมิภาค อาคารมิลโคโลนเนด โรงแรมแกรนด์ปัพป์โฮเต็ล และร้านบูติกจำนวนมาก , ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ และภัตตาคาร ตลอดทางเดินจะมี น้ำพุน้ำแร่ ให้ลิ้มรสกัน การดื่มน้ำแร่ มีวิธีการพิเศษ ต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้วที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ และจะต้องจิบทีละน้อย เนื่องจากน้ำแร่ มีอุณหภูมิสูง 30, 50 และ 72 องศาเซลเซียส
ปัจจุบัน ชื่อเสียงด้านสปาก็ยังคงอยู่ การรักษาโรคได้ถูกพัฒนาขึ้น ใช้การบำบัดตามธรรมชาติควบคู่ไปกับการรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่ คาร์โลวี วารี จึงมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะพากันหลั่งไหลมาตากอากาศที่นี่ นอกจากจะได้พักผ่อนแล้ว ยังได้สัมผัสกลิ่นอายความยิ่งใหญ่ของอดีตที่มีอยู่ทุกหนแห่งอีกด้วย
 สถานที่น่าสนใจในเมืองคาร์โลวี วารี
Russian Orthodox Church of St. Peter and St. Paul โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ และเซนต์ปอลนิกายออร์โธดอกซ์รัสเซีย ซึ่งสร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกับมหาวิหารในออสตานคิโน ในกรุงมอสโกHotel Pupp
Municipal Theatre โรงละครเทศบาล  เป็นหนึ่งในจำนวนอาคารมากมาย ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกเฟลเนอร์และเฮลเมอร์ คิลเลียน อิกแน็ค ไดน์เซนโอเฟอร์ ที่ออกแบบโบสถ์เซนต์แมรีแมกดาลีน (Church of St.Mary Magdalene) ในสไตล์บารอก
Jan Becher Muzeum พิพิธภัณฑ์แจนบีเชอร์ ชมโรงงานที่พวกเขาผลิตเครื่องดื่มพิเศษ ที่ไม่เหมือนใครโดยการ ดองถุงสมุนไพรผสมในแอลกอฮอล์ และต่อจากนั้นก็นำแอลกอฮอล์ที่ดองกับสมุนไพรเหล่านั้นแล้วไปใส่ในถังไม้โอ๊กIMG_0580
Grandhotel Pupp โรงแรมแกรนด์ปัพป์ โรงแรมแกรนด์ปัพป์โฮเต็ลที่สวยงามแห่งนี้ ตั้งอยู่บนจตุรัสมิโรเว สร้างขึ้นในปี 1895 ใช้เป็นที่พักของดาราที่มาร่วมงานคาร์โลวี วาร์ ฟิล์ม เฟสติวัล และใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เจมส์บอนด์  “คาสิโน รัวยาล”
Chateau Hill ชาโตว์ฮิลล์ พัฒนารวมเข้ากับอาคารคอมเพล็กซ์ชาว์โตว์บาต โครงสร้างโดยสถาปนิกโอมานน์ ตกแต่งแบบอาร์ตนูโว
Cable car to the Diana lookout point รถเคเบิ้ลจุดชมวิวไดอาน่า เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเมือง, รอบๆในมุมมอง 360 องศาIMG_0889

Oslo

Oslo เมืองหลวงของนอร์เว เล็กๆ น่ารัก ถ้าไปเยือนในฤดูร้อนคงจะร่าเริงกว่านี้ แม้ในฤดูหนาวอากาศจะเย็นมาก ก็ยังเพลิดเพลินไม่น้อย

1

Frogner Park สวนกว้างใหญ่มาก ต้นไม้เรียงเป็นระเบียบ สวยงาม คุณจะเพลิดเพลินไม่น้อยกับการจัดแสดงปฎิมากรรม (Vigeland Sculpture Park) เรื่องวัฏจักร รูปสลักเหมือนจากหินแกรนิต รูปหล่อคนด้วยสำริด แกะสลักรูปทรงต่างๆ แสดงอารมณ์, ความหมายต่างกันออกไป เดี่ยวบ้าง, คู่บ้าง, เป็นกลุ่มเล็ก,กลุ่มใหญ่ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก บางชิ้นให้ความรู้สึกถึงความร่าเริง, ความสุข, ความทุกข์ทรมาน, ความเสียใจ, ความอาลัยและความอ่อนแอ ไม่ว่าความรู้สึกไหน คุณจะเห็นว่าทั้งหมดเป็นการแสดงออก ของความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ทั้งสิ้น
.. เด็กน้อยขี้โมโห (Angry Boy) ดูเหมือนจะเป็นขวัญใจของทุกๆคน ใครผ่านมาเยือนต้องไปยืนจับลูบคลำ สังเกตุได้จากมือมั้งสองข้าง ไม่เป็นสีดำ นจับกันมากจะเห็นสีองข้างใน ซึ่งแตกต่างจากรูปอื่นอย่างสิ้นเชิง นี่น่าจะเป็นที่สุด ทุกคนต้องมีอารมณ์นี้ อารมณ์โมโห อารมณ์เด็กน้อย
Karl Johanes Gat ถนนช้อปิ้งเส้นสำคัญ ร้านค้า ร้านอาหาร มากมาย ต้นถนน จะเห็น Dome Kirche ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญของเมือง แม้จะเล็กๆ ไม่อลังการแต่ภายในโบสถ์สวยทีเดียว
 The Nobel Peace Centre การจัดแสดงเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ทุกๆ ราย
Schloß รอบๆเป็นสวนกว้างใหญ่ให้เดินเล่นอย่างเพลิดเพลิน จังหวะดีๆจะเห็นการเปลี่ยนขบวนเวร ทหารยามเป็นสิบนาย เดินตบเท้าเข้าจังหวะ ด้วยควาใพร้อมเพรียง น่าดูชมไม่น้อย
Parliament อาคารสวยงาม ตั้งหันหน้าชนกับ National theater โดยมีลานอเนกประสงค์กั้นตรงกลาง และสถานีรถไฟ
3
พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง  น่าสนใจทีเดียว ที่มีเรือไวกิ้งอายุเป็นพันปีให้ชม
Ski Jump Tower อยู่ห่างเมืองออกไปสักหน่อยแต่การเดินทางสะดวกสบายมาก
Eis bar โดย Eis hotel บาร์เล็กๆ ตั้งอยู่ไม่ห่างออกไป ข้างในบาร์ทั้งหมด ประกอบไปด้วยน้ำแข็งทั้งหมด เก้าอี้ โต๊ะเครื่องดืม บาร์เครื่องดื่ม แก้วซึ่งเป็นแบบใช้ครั้งเดียว พิเศษ หากใครต้องการที่จะลองแกะสลักน้ำแข็งก็ทำได้ เจ้าหน้าที่(คนเดียว)จะนำก้อนน้ำแข็งขนาดย่อมๆ มาวางบนโต๊ะค้อน และสิ่ว ให้เคาะ แกะ ตามแบบที่ต้องการ แต่เท่าที่เห็นไม่มีใครแกะออกมาเป็นรูปเป็นร่างเลย ช่วงเวลาสั้นในโลกน้ำแข็งเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจทีเดียว ว่ากันตามจริงให้ไปใช้บริการในโรงแรมน้ำแข็งเป็นเวลานานๆ เหมือนอยู่โรงแรมทั่วไป ต้องบอกเลยว่า ขอตัวค่ะ ..

2

Dresden

Dresden เมืองเล็กๆ และถือว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดอีกเมืองนึงของเยอรมันก็ว่าได้มีสถานที่ท่อง เที่ยวที่สวยงามอยู่มากพอสมควรเลย สิ่งก่อสร้าง สถาปัตยกรรมสวยงาม แม้ช่วงสงครามโลกจะโดนทิ้งระเบิดทำลาย จนแทบไม่เหลือสภาพเมืองให้เห็น แต่ทางรัฐบาลก็พยายามสร้างกลับคืนมาให้เหมือนของเก่ามากที่สุดสถานที่เที่ยว หลักๆ อยู่ศูนย์กลางเมือง และไม่ห่างกันเลย
Frauenkirche  โบสถ์ โดมทรงสูง สัญญาลักษณ์ของเมือง Dresden สร้างปี ค.ศ. 1726-1743 ถูกระเบิดถล่มทำลายไปในปี ค.ศ. 1945 ที่เห็นนี้เป็นตึกที่สร้างขึ้นมาใหม่ ปี 1989 หลังจากการรวมประเทศ มีการโหวตซึ่งผลเป็นเอกฉันท์ให้สร้างโบสถ์ Frauen Kirche ขึ้นมาใหม่ และสำเร็จในปี 2005 หากใครที่ไปเที่ยวเมือง Dresden ก่อนหน้านั้นจะเห็นได้เพียงซากปรักหักพังและเศษอิฐด้านในโบสถ์ อลังการ สวยงามมาก มีลิฟต์ให้ขึ้นไปถึงยอด ชมวิวเมืองในมุมสูง
Semperoper  สวยงามอลังการไม่แพ้ที่อื่นเลย
Zwinger   สถาปัตยกรรมชิ้นงามของเยอรมัน ปันจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ภายในยังจัดเป็น พิพิธภัณฑ์ย่อยๆ สุดแต่ว่าใครชอบประเภทไหน เลือกดูได้ ตั้งแต่รูปวาดสมัย 1600-1800 เครื่องสงครามในอดีต หรือห้องสมบัติของกษัตริย์ ก่อสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตรงกลางเป็นลานกว้าง มีสนามหญ้าและน้ำพุ รายล้อมด้วยตึกที่มีความสวยงาม.
Wiener Feinbäcker อย่าแปลกใจนะคะว่าทำไมมีขนมอร่อย สูตรเวียนนา มาฮิตอยู่แถวนี้ได้ ในยุคก่อนนั้น จักรวรรดิ์ออสเตรีย โดยพระนางมาเรีย เทเรเซีย รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่มาก มีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าเมือง Sachsen และเสด็จมาบ่อยๆ
Hofkirche  โบสถ์ที่มีความโดดเด่น สวยงาม ตั้งเด่นอยู่ริมแม่น้ำ Elbe
 Emil Reimann พักดื่มชา กาแฟ ไอศครีม ขนมท้องถิ่นกันก่อน ร้านขนมเก่าแก่ดั้งเดิม เดินเที่ยวชมเมืองมาแล้ว นั่งพักสักหน่อย ขนมอร่อยๆ กาแฟรสกลมกล่อม ทำให้หายเหนื่อยเร็ว มีแรงเดินได้ต่ออีก

Vienna, Austria

Viennna  เวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย เมืองที่ติดอันดับน่าอยู่ที่สุดในโลกหลายปีซ้อนติดกัน และยังได้ชื่อว่ามีระบบการขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดในยุโรปอีกด้วย  เวียนนาเป็นเมืองที่มี่ความสวยงามทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม และธรรมชาติ เป็นเมืองที่มีสวนสาธารณเยอะ และมีการจัดการดูแลอย่างดีเยี่ยม สะอาด ปลอดภัน ผู้คนเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า นอกจากจะมีชื่อเสียงด้านศิลปะ และดนตรี ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ ถนน Mariahilferstraße ถนนช้อปปิ้งสายยาวที่สุดของเวียนนา ติดอันดับถนนช้อปปิ้ง อันดับ 6 ของโลก..

Wien

Schloß Belvedere พระราชวังเบลเวเดียร์  พระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายแห่งซาวอย ผู้นำกองทัพแห่งราชวงศ์แฮบส์บวร์ก ที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน  พระราชวังถูกออกแบบให้สร้างเป็นสองส่วน โดยมีสวนขนาดใหญ่เชื่อมระหว่างสองอาคาร  ภาพวาด  The Kiss ของศิลปิน Gustav Klimt  อันโด่งดังแสดงอยู่ที่นี่
Karlskirche โบสถ์คาร์ลที่สวยงาม ซึ่งคุณจะมองเห็นแต่หลังคาสีเขียวแต่ไกล เสาแกะสลักเรื่องราวต่างๆ ความเดือดร้อน ความทุกข์ยากในอดีต อลังการ และงดงาม ไม่มีใครเหมือน
Operอาคารโอเปร่า สวยเด่น ตั้งรับแขกอยู่ริมถนน จาก ตรงนี้จะมองเห็นยอด โบสถ์สเตฟานสูงสง่า Stephansdom โบสถ์ คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์กลางของเมืองเวียนนา รายล้อมไปด้วยร้านค้า ชั้นนำ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จะพูดว่าเป็นหัวใจของเวียนนาสวยงามเชียวล่ะค่ะ
 Burggarten สวนสาธารณะ ที่มีรูปปั้นของโมสาร์ท ตั้งเด่นเป็นสง่าต้อนรับผู้มาเยือนอยู่หน้าตรงประตูทีเดียว สวนแห่งนี้ เป็นที่นิยมของผู้เขียนเป็นพิเศษ มีเวลาจะมานั่งที่ม้านั่งเยื้องๆ เผ้าสังเกตพฤติการณ์ของผู้คนที่ผ่านไป-มา ชาวเมืองที่จะมานั่งสบายๆ มอง
 MariaTheresienPlatzอนุเสาวรีย์ของพระนางมาเรีย ตั้งเด่นเป็นที่ต้องตา ขนาบด้วยตึกสวยทั้งสองฝั่ง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ  และข้ามพิพิธภัณฑ์ศิละป ด้านหลังเป็นจตุรัส พิพิธภัณฑ์ ที่คุณต้องใช้เวลาทั้งวันในการชมให้หมด หันไปฝั่งตรงข้ามถนนดูบ้าง
Hofburg พระราชวังเดิม ซึ่งปัจจุบันได้ดัดแปลงมาใช้ประโยชน์ บางส่วนทำเป็นหอสมุดแห่งชาติ  บางส่วนทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดง เครื่องใช้ เครื่องเงิน เครื่องทอง ที่เรารู้จักกันว่า Sisi ApartmentWien
Volksgarten สวนดอกไม้ กุหลาบนานาพันธ์ ตรงข้ามกับ Parlamentsตึกที่ทำการรัฐสภาที่สวยงามและอลังการ
 Burgtheater  โรงละครที่สวยงาม ซึ่งด้านหลังของโรงละคร ติดกับที่ทำงานของประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี
 Rathaus  ที่ทำการเมืองเวียนนา ที่สวยละเอียดอ่อน หน้าที่ทำการนี่เองจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายในแต่ละฤดู
โบสถ์ Votivkircheที่มี 2 ยอด เด่นให้คุณเห็นแต่ไกล
 Wien Universität  ภายในอาคารมหาลัยวิทยาลัยสวยมากๆ หลายๆคนอาจจะไม่ทราบว่า ข้างมีสวนเล็กๆ ตรงกลาง มีที่นั่งอ่านหนังสือ เผ้าสังเกตการสามารถเข้าไปเดินเล่น ผู้เขียนเข้าไปนั่งอ่านหนังสือบ่อยๆ
Schönbrunn พระราชวังเชินบรูนน์ ความภูมิใจที่สำคัญของชาวเวียนนา อาคารด้านหลังสุด ของอุทยาน มีชื่อว่าโกลเรียตต์ บนอาคาร รูปนกอินทรีเหยียบลูกโล ซึ่งสัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์แฮมส์บวร์ก  และด้านขวาของอุทยานเป็นสวนสัตว้ก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
 Stadt Park สวนสาธารณะ ที่มีรูปปั้นสีทองของ นักแต่งเพลงชื่อดัง Johann Strauß  อีกแห่งที่ต้องมา เมื่อมาเยือนเวียนนา
Prater Park สวนสาธารณะ / สวนสนุกขนาดใหญ Riesenrad ชิงช้ายักษ์อายุร่วม 100ปี  สัญลักษณ์ของเวียนนา อยู่ที่นี่ รอให้คุณมาเยือน

Hallstatt

Hallstatt ออสเตรียมีเมืองน่าเที่ยวเยอะค่ะ แต่ละเมืองมีลักษณะเด่นแตกต่างออกไป ฮัลสตัดท์เป็นเมืองเล็กๆ แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับของออสเตรีย (Austria) ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเมืองมรดกของโลกจากองค์การยูเนสโก้ ผู้คนที่โปรดการตักตวงความสุขในวันหยุดจะไปเยือนอยู่บ่อยๆ  กิจกรรมคือการเดินเที่ยวชิลๆ ช้อปปิ้งของฝากติดไม้ติดมือ ในเมืองมีร้านให้คุณเลือกนั่งมากมาย ดื่มชา กาแฟ เฝ้าดูผู้คนผ่านไป มา เป็นการพักผ่อนที่เรียบง่ายและงดงาม
มีเส้นทางเดินเลาะเล่นในเมือง หลายเส้นทางที่ตัด ลัดมาบรรจบกันได้ แต่มีเส้นหนึ่งสำหรับคนที่รักผจญภัยเล็กน้อยเส้นนี้ออกจะชันสักหน่อยเป็นทางเดินขึ้นเขาไปเหมืองเกลือได้
บ้านเรือนริมทะเลสาบ แต่ละหลังรูปทรงน่ารัก เรียงราย ลดหลั่น ตามไหล่เขา ริมทะเลสาบ ฤดูนี้ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจี ดอกไม้ตามระเบียงแข่งกันชูดอกสีสันสดใส ผสมผสานเข้าด้วยกัน ช่างนุ่มนวล อ่อนหวาน เหมือนภาพวาดในหนังสือเทพนิยายสักเล่มที่เคยผ่านตา ขณะที่เดินในเมืองอีกด้านหนึ่งจะเห็นวิวทะเลสาบ มีทางให้เดินเล่นหลายเส้นทางสั้นๆ ลดหลั่นไป ยิ่งเดินบนเนินสูงเท่าไหร่ จะเห็นวิวทะเลสาบชัดเจนเท่านั้น หลายครั้งที่เผลอคิดไปว่ากำลังมองภาพโปสการ์ดขนาดใหญ่ ที่สวยตราตรึงเหลือเกิน .. แต่ละฤดูที่มาเยือนที่นี่ให้บรรยากาศแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่อารมณ์สุนทรีย์ น่ารัก โรแมนติก คุณจะพบได้ในทุกๆ ฤดูกาลhallstatt0

Barcelona

บาร์เซโลนา Barcelona  เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสเปน เป็นเมืองท่าสำคัญศูนย์กลางทางการค้าสำคัญริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นอาณานิคมของโรมันมาก่อน ชายแดนอยู่ติดกับเมืองนีซ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส  ในเขตโพรวองซ์ ดังนั้นภาษาที่ใช้ในบาร์เซโลน่านี้จึงคล้ายคลึง กับภาษาฝรั่งเศสอยู่เหมือนกัน เรียกกันว่า ภาษาคาลาตัน ซึ่งแตกต่างจากภาษาสเปน(Castilian Spanish)โดยทั่วไป นอกจากชื่อเสียงด้านทีมฟุตบอลแล้ว บาร์เซโลน่ายังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเมื่อปี พ.ศ. 2535 นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวยามราตรีที่รื่นเริงสนุกสนานมีแหล่งช็อปปิ้งมากมายแต่ไฮไลท์สำคัญคือ La Rambla หากมาบาร์เซโลนาแล้วไม่ได้มาเดินบนถนนสายนี้ก็เหมือนกับมาไม่ถึงบาร์เซโลนา
สนามกีฬา คัมป์ นู สปอร์ตคอมบาร์เซโลนามีสโมสรกีฬาที่สำคัญคือ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ถือว่าเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จุผู้ชมได้มากว่า 90,000 คน ยิ่งใหญ่และสวยงาม คนที่ชมดูบอลไปแล้ว ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปชมสักครั้ง
พิพิธภัณฑ์  บาร์เซโลน่า  มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น City History Museum, Science Museum, Picasso Museum, Barcelona Museum of Contemporary Art ฯลฯ
Centre d Art Santa Monica หรือ CASM พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งเปิดให้คนรักศิลปะเข้าชมเมื่อปี 1988 โดยการปรับปรุงอาคารเก่าที่เคยเป็นอาราม สร้างด้วยศิลปะสมัยเรอเนสซองซ์เมื่อปี 1626 และถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ เป็นของเอกชนแต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี ส่วนใหญ่เป็นการแสดงศิลปะสมัยใหม่ของศิลปินชาวสเปนและชาวต่างชาติที่ผลัดกันมาจัดแสดงทุกปี ตั้งอยู่บนถนน La Rambla
La Rambla หรือ  Las Ramblas  ถนนเส้นทางเชื่อมระหว่าง Placa de Cataluny กับท่าเรือ เป็นถนนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองบาเซโลน่า เต็มไปด้วยผู้คน สินค้ามากมายจากทั่วทุกมุมโลก  และยังมีอาคารสถานที่ น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น Iglesia de Betlem, Palacio de Moya ฯลฯ
Boqueria หรือMercat de Sant Josep de la Boqueria ตลาดขายสินค้าพื้นเมือง ถือว่าเก่าแก่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1217 โดยเริ่มจากนักค้าเนื้อมาตั้งโต๊ะขายเนื้อสัตว์ตรงประตูเข้าเมือง จนกระทั่งปี 1470 จึงตั้งชื่อตลาดว่า Mercat Bornet ซึ่งมีทั้งอาหารสด ผัก และผลไม้  ตลาดนี้ได้ชื่อว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบาร์เซโลนา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว ทื่ถือได้ว่าน่าสนใจ ตั้งอยู่ริมถนน Las Ramblas
Monument a Colom หรือ อนุสาวรีย์นักเดินเรือคนสำคัญของโลกคือ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่โคบัมบัสเดินเรือไปพบโลกใหม่ โดยเขากลับมาสเปนและขึ้นบกที่บาร์เซโลนาตรงท่าเรือนี้ ลักษณะของอนุสาวรีย์เป็นเสาหินสูง ตรงปลายเสามีรูปของโคลัมบัสหล่อด้วยบรอนซ์ เสาสูงประมาณ 60  เมตร ตั้งอยู่สุดปลายถนน La Rambla
Antoni Gaudi y Cornet เป็นสถาปนิกชาวสเปนที่มีชื่อเสียง (1852-1926) โดยเฉพาะผลงานแบบอาร์ตนูโว คุณจะพบเห็นผลงานของ Antonio Gaudi’s ได้ทั่วไปในเมืองบาเซโลน่า โดยเฉพาะผลงานมาสเตอร์พีชอย่าง Parc Guell และโบสถ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Sagrada Familia, bellesguard รวมทั้ง Casa Batllo ถือว่าเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ
Parc de la Ciutadella  ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองบาเซโลน่า เพราะสวนนี้เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม และอนุสรณ์สถาน คุณจะได้เห็นพืชไม้นานาพันธุ์, สวนสัตว์ มากมาย ในอดีตเคยเป็นฐานทัพทหาร

Charles Bridge

สะพานชาร์ล (Charl’s Bridge) ถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปราก สะพานทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวา เชื่อมระหว่างย่านย่าน old town กับ lesser side  สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 โดยชื่อเดิมนั้นเรียกว่า สะพานปราก ต่อมาใน ค.ศ. 1870 จึงได้เปลี่ยนชื่อตามพระนามของพระเจ้าชาร์ล
  • สะพานนี้มีำตำนาน น่าสนใจไม่แำ้พ้เรื่องราวของรูปปั้นต่างๆ ที่เรียงรายกัน 2 ข้างบนสะพาน เซนต์หญิงทั้ง 3 ซึ่งมีตำนาน ต้องแก่ความตายก่อนวัยอันควร
    • St. Barbara สาวงามผู้หลบหนีพ่อมาบวชในศาสนา แต่พ่อผู้หึงหวงลูกสาวก็ตามมาฆ่าตัดหัวเธอ
    • Margaret หญิงสาวผู้มีศรัทธาแรงกล้า ปฏิเสธการสมรสกับคนนอกศาสนา จึงถูกทรมานจนตาย,
    • St. Elizabeth ธิดากษัตริย์ผู้อุทิศตนให้กับการดูแลผู้ป่วย
    • St. Cosmos and Damian แพทย์สองพี่น้องที่อุทิศตนดูแลรักษาผู้ป่วยจนได้รับการนับถือต่อมาเป็นนักบุญ
    • St. Francis Xavier นักบุญที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนาทวีปเอเชีย
    • St. John the Baptist ผู้ทำพิธีล้างบาปให้พระเยซู
    • St. Vitus นักบุญที่กษัตริย์เวนเซสลัสนับถือ และนำนามของท่านมาสร้างวิหารเสียดฟ้าในปราสาท
    • St. Anne และ St. Joseph มารดาและสามีพระแม่มารี
    • St. John Nepomuk รูปปั้นจะเป็นสีบรอนซ์ไม่เหมือนใคร คริสต์ชนที่เดินข้ามผ่านสะพานนี้ มาหยุดอยู่หน้ารูปปั้น เพื่ออธิษฐานและแสดงความเคารพโดยการแตะๆ ลูบๆ แผ่นโลหะสีทองๆ โดยปกติแล้ว บริเวณนี้ผู้คนจะแน่นมาก ต้องต่อคิวกัน ว่ากันว่าหากใครอธิษฐานจะได้กลับมาเยือนปรากอีก

Karlskirche

โบสถ์คาร์ล (Karlskirche) สร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยศิลปะแบบบาโรคในยุคที่พัฒนาถึงขีดสุด  ที่มาของการสร้างโบสถ์แห่งนี้คือ ในราวปี ค.ศ.1713 ได้เกิดโรคระบาดใหญ่ใหญ่ลุกลามไปทั่วยุโรป  ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก  พระเจ้าคาร์ลที่ 6 ได้ทรงอธิษฐานว่าจะสร้างโบสถ์ขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญเซนต์ชาลส์ บอร์โรมีโอ (St.Charles Borromeo)  นักบุญแคทอลิกพระนามเดียวกับพระองค์  หากโรคระบาดสงบลง.