Tag Archives: ทัวร์เวียนนา

Ljubljana

Ljubljana กรุงลูบลิยานา เมืองหลวงของสโลเวเนีย ล็กๆ น่ารัก เงียบสงบ และมีเอกลักษณ์
Preseren Square จัตุรัสเพรเซเรน เป็นจัตุรัสกลางเมืองมีความสำคัญบริเวณโดยรอบจัตุรัส มีสิ่งสำคัญหลายอย่าง เช่น
รูปหล่อของฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลเวเนีย (1800 – 1849) เป็นสัญลักษณ์ของคนรักชาติ รักเสรีภาพ
โบสถ์สีชมพูดึงดูดสายตา นิกายฟรานเซสกันที่ ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 14 ปี เป็นศิลปะแบบอาร์ตนูโว
Galerija Emporium ห้างสรรพสินค้าหรูหราของเมือง ซึ่งตั้งถัดจากโบสถ์สีสวย ตรงนี้เองเป็นจุดเริ่มต้น ถนนคนเดิน Trubarjeva cesta เป็นถนนเล็กๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายสินค้ามากมาย ร้านอาหาร ร้านเบียร์  และร้านกาแฟ
Dragon Bridge สะพานมังกร  สร้างในปี 1901 เป็นสะพานแห่งแรก ๆ ที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ของยุโรป ที่หัวสะพานทั้งสองฝั่งมีรูปมังกร ในแบบอาร์ตนูโวตั้งฝั่งละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว เป็นเรื่องความผูกพันของชาวสโลเวเนีย ที่เชื่อกันว่าเจสันได้ขโมยขนแกะทองคำมา แล้วล่องเรือหนีภัยร้ายคือพวกยักษ์หนีจากทะเลดำเข้าแม่น้ำดานูบ ล่องเรือมาจนถึงแม่น้ำซาวาแล้วแล่นเรือต่อมาอีกมาถึงเมืองลูบญาณน่า และได้ปะทะกับ มังกรแห่งลูบลีอานา ดังนั้น มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์อีกชิ้นที่ประดับอยู่บนตราประจำ (มีอ้างอิงในหนังหนังฮอลลีวู้ด  Jason And The Argonauts  อภินิหารขนแกะทองคำ)

Vienna, Austria

Viennna  เวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย เมืองที่ติดอันดับน่าอยู่ที่สุดในโลกหลายปีซ้อนติดกัน และยังได้ชื่อว่ามีระบบการขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดในยุโรปอีกด้วย  เวียนนาเป็นเมืองที่มี่ความสวยงามทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม และธรรมชาติ เป็นเมืองที่มีสวนสาธารณเยอะ และมีการจัดการดูแลอย่างดีเยี่ยม สะอาด ปลอดภัน ผู้คนเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า นอกจากจะมีชื่อเสียงด้านศิลปะ และดนตรี ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ ถนน Mariahilferstraße ถนนช้อปปิ้งสายยาวที่สุดของเวียนนา ติดอันดับถนนช้อปปิ้ง อันดับ 6 ของโลก..

Wien

Schloß Belvedere พระราชวังเบลเวเดียร์  พระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายแห่งซาวอย ผู้นำกองทัพแห่งราชวงศ์แฮบส์บวร์ก ที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน  พระราชวังถูกออกแบบให้สร้างเป็นสองส่วน โดยมีสวนขนาดใหญ่เชื่อมระหว่างสองอาคาร  ภาพวาด  The Kiss ของศิลปิน Gustav Klimt  อันโด่งดังแสดงอยู่ที่นี่
Karlskirche โบสถ์คาร์ลที่สวยงาม ซึ่งคุณจะมองเห็นแต่หลังคาสีเขียวแต่ไกล เสาแกะสลักเรื่องราวต่างๆ ความเดือดร้อน ความทุกข์ยากในอดีต อลังการ และงดงาม ไม่มีใครเหมือน
Operอาคารโอเปร่า สวยเด่น ตั้งรับแขกอยู่ริมถนน จาก ตรงนี้จะมองเห็นยอด โบสถ์สเตฟานสูงสง่า Stephansdom โบสถ์ คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์กลางของเมืองเวียนนา รายล้อมไปด้วยร้านค้า ชั้นนำ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จะพูดว่าเป็นหัวใจของเวียนนาสวยงามเชียวล่ะค่ะ
 Burggarten สวนสาธารณะ ที่มีรูปปั้นของโมสาร์ท ตั้งเด่นเป็นสง่าต้อนรับผู้มาเยือนอยู่หน้าตรงประตูทีเดียว สวนแห่งนี้ เป็นที่นิยมของผู้เขียนเป็นพิเศษ มีเวลาจะมานั่งที่ม้านั่งเยื้องๆ เผ้าสังเกตพฤติการณ์ของผู้คนที่ผ่านไป-มา ชาวเมืองที่จะมานั่งสบายๆ มอง
 MariaTheresienPlatzอนุเสาวรีย์ของพระนางมาเรีย ตั้งเด่นเป็นที่ต้องตา ขนาบด้วยตึกสวยทั้งสองฝั่ง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ  และข้ามพิพิธภัณฑ์ศิละป ด้านหลังเป็นจตุรัส พิพิธภัณฑ์ ที่คุณต้องใช้เวลาทั้งวันในการชมให้หมด หันไปฝั่งตรงข้ามถนนดูบ้าง
Hofburg พระราชวังเดิม ซึ่งปัจจุบันได้ดัดแปลงมาใช้ประโยชน์ บางส่วนทำเป็นหอสมุดแห่งชาติ  บางส่วนทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดง เครื่องใช้ เครื่องเงิน เครื่องทอง ที่เรารู้จักกันว่า Sisi ApartmentWien
Volksgarten สวนดอกไม้ กุหลาบนานาพันธ์ ตรงข้ามกับ Parlamentsตึกที่ทำการรัฐสภาที่สวยงามและอลังการ
 Burgtheater  โรงละครที่สวยงาม ซึ่งด้านหลังของโรงละคร ติดกับที่ทำงานของประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี
 Rathaus  ที่ทำการเมืองเวียนนา ที่สวยละเอียดอ่อน หน้าที่ทำการนี่เองจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายในแต่ละฤดู
โบสถ์ Votivkircheที่มี 2 ยอด เด่นให้คุณเห็นแต่ไกล
 Wien Universität  ภายในอาคารมหาลัยวิทยาลัยสวยมากๆ หลายๆคนอาจจะไม่ทราบว่า ข้างมีสวนเล็กๆ ตรงกลาง มีที่นั่งอ่านหนังสือ เผ้าสังเกตการสามารถเข้าไปเดินเล่น ผู้เขียนเข้าไปนั่งอ่านหนังสือบ่อยๆ
Schönbrunn พระราชวังเชินบรูนน์ ความภูมิใจที่สำคัญของชาวเวียนนา อาคารด้านหลังสุด ของอุทยาน มีชื่อว่าโกลเรียตต์ บนอาคาร รูปนกอินทรีเหยียบลูกโล ซึ่งสัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์แฮมส์บวร์ก  และด้านขวาของอุทยานเป็นสวนสัตว้ก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
 Stadt Park สวนสาธารณะ ที่มีรูปปั้นสีทองของ นักแต่งเพลงชื่อดัง Johann Strauß  อีกแห่งที่ต้องมา เมื่อมาเยือนเวียนนา
Prater Park สวนสาธารณะ / สวนสนุกขนาดใหญ Riesenrad ชิงช้ายักษ์อายุร่วม 100ปี  สัญลักษณ์ของเวียนนา อยู่ที่นี่ รอให้คุณมาเยือน

Hallstatt

Hallstatt ออสเตรียมีเมืองน่าเที่ยวเยอะค่ะ แต่ละเมืองมีลักษณะเด่นแตกต่างออกไป ฮัลสตัดท์เป็นเมืองเล็กๆ แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับของออสเตรีย (Austria) ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเมืองมรดกของโลกจากองค์การยูเนสโก้ ผู้คนที่โปรดการตักตวงความสุขในวันหยุดจะไปเยือนอยู่บ่อยๆ  กิจกรรมคือการเดินเที่ยวชิลๆ ช้อปปิ้งของฝากติดไม้ติดมือ ในเมืองมีร้านให้คุณเลือกนั่งมากมาย ดื่มชา กาแฟ เฝ้าดูผู้คนผ่านไป มา เป็นการพักผ่อนที่เรียบง่ายและงดงาม
มีเส้นทางเดินเลาะเล่นในเมือง หลายเส้นทางที่ตัด ลัดมาบรรจบกันได้ แต่มีเส้นหนึ่งสำหรับคนที่รักผจญภัยเล็กน้อยเส้นนี้ออกจะชันสักหน่อยเป็นทางเดินขึ้นเขาไปเหมืองเกลือได้
บ้านเรือนริมทะเลสาบ แต่ละหลังรูปทรงน่ารัก เรียงราย ลดหลั่น ตามไหล่เขา ริมทะเลสาบ ฤดูนี้ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจี ดอกไม้ตามระเบียงแข่งกันชูดอกสีสันสดใส ผสมผสานเข้าด้วยกัน ช่างนุ่มนวล อ่อนหวาน เหมือนภาพวาดในหนังสือเทพนิยายสักเล่มที่เคยผ่านตา ขณะที่เดินในเมืองอีกด้านหนึ่งจะเห็นวิวทะเลสาบ มีทางให้เดินเล่นหลายเส้นทางสั้นๆ ลดหลั่นไป ยิ่งเดินบนเนินสูงเท่าไหร่ จะเห็นวิวทะเลสาบชัดเจนเท่านั้น หลายครั้งที่เผลอคิดไปว่ากำลังมองภาพโปสการ์ดขนาดใหญ่ ที่สวยตราตรึงเหลือเกิน .. แต่ละฤดูที่มาเยือนที่นี่ให้บรรยากาศแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่อารมณ์สุนทรีย์ น่ารัก โรแมนติก คุณจะพบได้ในทุกๆ ฤดูกาลhallstatt0

Zurich

Zurich ซูริก แม้จะไม่ใช่เมืองหลวงแต่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและวัฒนธรรม บางครั้งเรียกว่าเมืองหลวงวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์ และจากการสำรวจปี 2006 ถึง 2007 ซูริก ถือเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป มีประชากรราว 1.68 ล้านคน
  • แม่น้ำ Limmat ซึ่งไหลลงสู่ทะเลสาปซูริค ที่อยู่ไม่ไกล การนั่งเรือ เป็นอีกวิธีที่ดี ในการเที่ยวชมเมืองซูริก เพราะแม่น้ำ Limmat ไหลผ่านย่านใจกลางเมืองและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ก่อนจะไปออกที่ทะเลสาบซูริกอันงดงาม
  • Bahnhofstrasse  ถนนช้อปปิ้งในบรรยากาศแบบยุโรป ร้านอาหาร ร้านเหล้า ร้านชา กาแฟ ร้านขายเครื่องประดับ ฯลฯ เส้นทางเดินเป็นเนินภูเขาขึ้นๆ ลงๆ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
  • ทะเลสาบซูริค  พื้นน้ำเรียบกว้างกลางเมือง ดูกว้างขวาง หรูหราด้วยเรือใบ เรือยอชต์ จอดชุมนุมเรียงราย และก็อยู่กลางเมือง รายรอบด้วยสวนสาธารณะที่ริมฝั่งซึ่งมีอยู่หลายแห่ง เป็นศูนย์การการพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่น นั่งเล่น วิ่งเล่น ขี่จักรยาน ของชาวเมือง และผู้มาเยือน
  • Church of Our Lady โบสถ์ที่สวยงามด้วยกระจกสี สร้างขึ้นโดย Emperor Ludwig (Louis) ให้แก่ ธิดานาม Hildegard ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 มาตกแต่งให้สวยงามด้วยกระจกสีในปี1970 โดย  Marc Chagall ซึ่งเป็นศิลปินชาวรัสเซีย อย่าลืมของฝากเป็นโปสการ์ดสวยๆหลายแบบ บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของโบสถ์
  • St.Peter โบสถ์ที่มีหน้าปัดนาฬิกาใหญ่ที่สุดในยุโรป ภายในโบสถ์มีสภาพเรียบง่าย แทบจะไม่มีการตกแต่งหรือประดับประดาอะไรเลย
  • โบสถ์ Grossmunster ซึ่งเป็นหอคอยคู่ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ การได้ขึ้นหอคอยให้ขึ้นไปชมวิว เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด ทางขึ้นหอคอยปราสาทค่อนข้างชันสักหน่อย ค่าขึ้นชมวิว เพียงคนละ 2 ฟรังซ์เท่านั้น
  • Kunsthaus  เป็นห้องแสดงภาพศิลปะของซูริคค่ะ ข้างในก็จะมีภาพวาด ภาพเขียน รูปปั้น ภาพกราฟฟิคต่างๆนานา

Berlin

เบอลิน /Berlin  เมืองหลวงของเยอรมัน เมืองเก่าในความใหม่ ใหม่ในความเก่า..  เบอลิน แม้จะเป็นเมืองเก่าแต่ผลของสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกทำลายไปมากเหลือเกินแม้การซ่อมแซมจะทำขึ้นมาให้เหมือนเดิมก็ตาม ก็ยังรู้สึกว่าเป็นของทำขึ้นใหม่ ในขณะเดียวกัน เบอร์ลินกลับเป็นเมืองที่มีความทันสมัยสุดๆ เป็นแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งศึกษา แหล่งวัฒนธรรม .. ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนเยอรมันถึงได้หวงแหนเสรีภาพ และคลั่งการเฉลิมฉลองนักหนา ความน่าสนใจ ความยากลำบากกว่าจะได้มาซึ่งเสรี ความอัปยศของประวัติศาสตร์ ความปวดร้าวจากผลของสงคราม จุดน่าสนใจในเบอลิน

  • กำแพงเบอลิน  13 สค. 1961 วันเริ่มสร้างกำแพงกั้นแยกระหว่างเยอรมันตะวันออก และตะวันตกออกจากกัน กำแพงมีความยาวกว่า 111 กม.  สูง 4 เมตร จุดเริ่มของเรื่องเศร้า, เรื่องเล่ามากมาย กำแพงถูกทำลายลงเมื่อ 9 พย. 1989 เหลือเพียงบางส่วนเอาไว้ และถ่ายทอดเป็นภาพวาดจากศิลปินกว่าร้อยท่าน บอกเล่าเรื่องราวมากมาย ได้รับการยกย่องว่าเป็นเป็นภาพเขียนศิลปะที่ยาวที่สุดในโลก
  • Checkpoint Charlieจุดเผชิญหน้า เขตพรมแดนเขตการปกครองระหว่าง อเมริกัน และรัสเซีย มีการตรวจเอกสารการผ่านเข้า-ออก
  • Alexanderplatz คุณจะเห็นความเป็นเบอร์ลินได้ชัดเจน ในเขตเมืองเก่าที่ถูกทำลายไปมากมายได้ถูกขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงให้เหมือนเดิม  นอกนั้นแหล่งช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้าทันสมัยมาก Fernsehturm หอคอยสูงสุด
  • Nikolaiviertel เต็มไปด้วยร้านอาหารให้เขาไปนั่ง ร้านค้าน่ารักมากมาย บริเวณนี้มีโบสถ์เก่าแก่ Nikolaikirche  แต่ถูกทำลายไปกับสงคราม และเพิ่งซ่อมแซมเสร็จ และเปิดให้เยี่ยมชม ในปี 2010 นี่เอง
  • Berliner Rathaus – Rotes Rathaus
  • มหาวิหารเบอร์ลิน /Berliner Dom มหาวิหารโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี สร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ ความวิจิตรสวยงามที่เห็นเป็นของใหม่ทำขึ้นให้เหมือนเดิม เพราะของเดิมถูกทำลายไปหมดพร้อมสงครามด้านหน้าวิหารเป็นมุมที่ผู้คนคนไม่เคยบางตาเลย แค่เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนจะมานอนเอกเขนก สนามหญ้าของสวนลุสท์ (Lustgarten)  ให้แสงแดดเลียผิวกันอย่างมีความสุข.
  • Denkmal für die ermordeten Juden Europas อนุเสาวรีย์รำลึกถึงชาวยิว 6 ล้านคนที่ถูกฆ่าในยุคนาซี ร่องรอยความปวดร้าวในประวัติศาสตร์ โดยส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่าเป็นการผสมผสานกันได้ดีมาก เป็นการออกแบบที่ดูทันสมัย ในขณะเดียวกัน รู้สึกได้ถึงความเศร้า ลึกลับ มืดดำ น่าอับอายและสยดสยอง.
  • Kaiser-Wilhelm-Gedächtniskirche ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยปี ค.ศ. 1891-1895 เพื่อเป็นการระลึกถึงกษัตริย์คนแรกของเยอรมัน ข้างในสวยงามทีเดียว น่าเสียดายมาก ปี1943 สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกระเบิดทำลาย และอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม ซึ่งเป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากขาดงบประมาณ.
  • Brandenburger Tor สัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลิน ด้านบนสุดมีรูปปั้นเทพธิดาแห่งชัยชนะนั่งอยู่บนที่ประทับมีรถม้าลาก 4ตัว เด่นตระหง่าน เรียกว่า “die Quadriga”  ซึ่งครั้งหนึ่งถูกนโปเลียนยึดไปไว้ที่ปารีสในฐานะที่เป็นของที่ยึดได้จากสงคราม 8ปีต่อมา เยอรมันชนะสงครามอีกครั้ง และนำกลับมาไว้ที่เดิม จะเห็นว่านักท่องเที่ยวทุกคนจะมาถ่ายรูปประตู พากลับบ้านไปด้วยกันถ้วนหน้า.
  • Reichstag อาคารรัฐสภา อาคารที่มีโดมแก้วอยู่ข้างบน ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันเลย อีกมุมของเบอร์ลินที่เนื้อหอมสุดๆ ผู้คนมากมายแห่แหนกันไปชม.
  • Hackesche Höfe อีกที่หนึ่งที่คุณจะเพลิดเพลินกันสถาปัตยกรรม การออกแบบที่สวยงาม ร้านค้าให้ช้อปปิ้งมากมาย.
  • Kurfürstendamm ถนนช้อปปิ้งสายหลัก เต็มไปด้วยสีสัน แฟชั่น สินค้าชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลก.
  • Siegessäule
  • Sony Center ศูนย์กลางธุรกิจ ตึกสมัยใหม่ ความทันสมัยทางเทคโนโลยี.
  • พิพิธภัณฑ์ /Museumsinsel ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ 5 แห่ง Altes Museum, Neues Museum, Pergamonmuseums, Alte Nationalgalerie, Bode Museum. ไม่ควรพลาด Pergamonmuseums ณ. ที่แห่งนี้เก็บรักษาแท่นบูชาเทพเจ้าซุส หรือ เซอุส ซึ่งได้รับ การยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ผู้ที่หลงไหลศิลปะทั้งเก่าและใหม่ หาความสุนทรีย์ได้จากที่นี่เกินพอล่ะ.

Venice, Italy

Venice เวนิส มหานครบนผิวน้ำ อีกเมืองหนึ่งที่น่าเที่ยวของอิตาลี มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ติดอันดับเมืองที่สวยในระดับต้นๆของโลก ได้สมญานามต่างๆ เป็นเมืองแห่งสายน้ำ (City of  Water ), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges)  เนื่องจากเมืองถูกสร้างขึ้นด้วยการเชื่อมเกาะเล็กๆด้วยสะพานน้อยใหญ่กว่า 400แห่ง เข้าด้วยกัน, และเมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เสน่ห์ของที่นี่คือน้ำที่ใสสะอาด การได้นั่งเรือกอนโดล่า ล่องไปตามคลองเล็ก คลองน้อย เป็นความโรแมนติกที่หาจากที่อื่นไม่ได้เลยvenedig001
San Marco มหาวิหาร และจตุรัสซานมาร์โค  เป็นอาคารที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ อาหรับ โรมันเนสก์ เรอเนซองซ์ เข้าไว้ด้วยกัน มียอดโดมแบบอาหรับ, ด้านนอกจตุรัส กว้างขวางรายล้อมไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรม จุดศูนย์กลางของเกาะเวนิส รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง มหาวิหารซานมาร์โค ซึ่งเดิมที่เป็นโบสถ์ส่วนตัวของผู้ครองเมืองในสมัยนั้น, พระราชวังดอจส์ (Doge’ s Palace), หอระฆัง สูงเป็นจุดชมวิวอีกจุดที่น่าสนใจ มองเห็นวิวเมืองทั้งเมือง, ลีโอเน่ (Lione) รูปปั้นสิงโตตัวใหญ่ติดปีกพร้อมถือหนังสือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเวนิส.
Palazzo Ducale พาลาซโซ ดูคาเล อาคารที่อยู่ข้างๆ มหาวิหารซานมาร์โก้ ซึ่งเป็นที่ทำการ บริหารกิจการ งานเมือง.
Murano glass แก้วมูราโน เครื่องแก้วชั้นดี มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองไม่ควรพลาด ที่จะมีเก็บไว้ชื่นชม หรือเป็นของฝากทีติดไม้ติดมือ เมื่อได้ไปเยือนเวนิส ซึ่งที่นี่เป็นศูนย์กลางการผลิตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 หากมีโอกาสได้ร่วมชมสาธิตการเป่าแก้ว ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดทีเดียว.
Venice Carnival เทศกาลสวมหน้ากาก งานคาร์นิวัลประจำปี เรียกว่าเป็นจุดขายของเมือง มีการจัดขบวนพาเหรด แต่งตัวด้วยสีสัน สไตล์ต่างๆ จุดเด่นอยู่ที่แต่คนจะสวมหน้ากาก สังเกตุได้ว่าทั้งเมืองมีหน้ากากเป็นของที่ระลึกขายเต็มไปหมด แม้จะไม่ใช่เทศกาลก็ตาม งานจะถูกขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ในทุกๆปีโดยประมาณ.
Ponte di Rialto สะพานรีอัลโต้ ชื่อสะพานที่โด่งดังที่สุด สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ มีเวลาสักหน่อยนั่งเล่น ชมวิว ดื่มกาแฟ เฝ้าดูผู้คนไปพลางๆ ได้ความเพลิดเพลินไม่น้อย.

Outlet Parndorf, Ausrtria

Designer Outlet Parndorf พาร์นดอร์ฟ เอาท์เลทแห่งแรก แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ของประเทศออสเตรีย ที่มีร้านค้ามากกว่า 120ร้าน สินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆจากทุกมุมโลก ให้เลือกมากมายอย่างจุใจ แหล่งเลือกซื้อสินค้านี้อยู่นอกเมือง ห่างจากกรุงเวียนนา 47 กิโลเมตร แต่กระนั้นการเดินทางสะดวกก็สะดวกสบาย  แต่มีประจำจากใจกลางเมืองฝั่งตรงข้าม Opern Haus ออกเดินทางทุกชั่วโมง
วันศุกร์ ตั้งแต่ 13.00-18.00  ขากลับ เริ่ม 14.00 – 19.00.  วันเสาร์ ตั้งแต่ 9.00-17.00 ขากลับ 10.00 – 18.00.

Barcelona

บาร์เซโลนา Barcelona  เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสเปน เป็นเมืองท่าสำคัญศูนย์กลางทางการค้าสำคัญริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นอาณานิคมของโรมันมาก่อน ชายแดนอยู่ติดกับเมืองนีซ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส  ในเขตโพรวองซ์ ดังนั้นภาษาที่ใช้ในบาร์เซโลน่านี้จึงคล้ายคลึง กับภาษาฝรั่งเศสอยู่เหมือนกัน เรียกกันว่า ภาษาคาลาตัน ซึ่งแตกต่างจากภาษาสเปน(Castilian Spanish)โดยทั่วไป นอกจากชื่อเสียงด้านทีมฟุตบอลแล้ว บาร์เซโลน่ายังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเมื่อปี พ.ศ. 2535 นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวยามราตรีที่รื่นเริงสนุกสนานมีแหล่งช็อปปิ้งมากมายแต่ไฮไลท์สำคัญคือ La Rambla หากมาบาร์เซโลนาแล้วไม่ได้มาเดินบนถนนสายนี้ก็เหมือนกับมาไม่ถึงบาร์เซโลนา
สนามกีฬา คัมป์ นู สปอร์ตคอมบาร์เซโลนามีสโมสรกีฬาที่สำคัญคือ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ถือว่าเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จุผู้ชมได้มากว่า 90,000 คน ยิ่งใหญ่และสวยงาม คนที่ชมดูบอลไปแล้ว ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปชมสักครั้ง
พิพิธภัณฑ์  บาร์เซโลน่า  มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น City History Museum, Science Museum, Picasso Museum, Barcelona Museum of Contemporary Art ฯลฯ
Centre d Art Santa Monica หรือ CASM พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งเปิดให้คนรักศิลปะเข้าชมเมื่อปี 1988 โดยการปรับปรุงอาคารเก่าที่เคยเป็นอาราม สร้างด้วยศิลปะสมัยเรอเนสซองซ์เมื่อปี 1626 และถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ เป็นของเอกชนแต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี ส่วนใหญ่เป็นการแสดงศิลปะสมัยใหม่ของศิลปินชาวสเปนและชาวต่างชาติที่ผลัดกันมาจัดแสดงทุกปี ตั้งอยู่บนถนน La Rambla
La Rambla หรือ  Las Ramblas  ถนนเส้นทางเชื่อมระหว่าง Placa de Cataluny กับท่าเรือ เป็นถนนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองบาเซโลน่า เต็มไปด้วยผู้คน สินค้ามากมายจากทั่วทุกมุมโลก  และยังมีอาคารสถานที่ น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น Iglesia de Betlem, Palacio de Moya ฯลฯ
Boqueria หรือMercat de Sant Josep de la Boqueria ตลาดขายสินค้าพื้นเมือง ถือว่าเก่าแก่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1217 โดยเริ่มจากนักค้าเนื้อมาตั้งโต๊ะขายเนื้อสัตว์ตรงประตูเข้าเมือง จนกระทั่งปี 1470 จึงตั้งชื่อตลาดว่า Mercat Bornet ซึ่งมีทั้งอาหารสด ผัก และผลไม้  ตลาดนี้ได้ชื่อว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบาร์เซโลนา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว ทื่ถือได้ว่าน่าสนใจ ตั้งอยู่ริมถนน Las Ramblas
Monument a Colom หรือ อนุสาวรีย์นักเดินเรือคนสำคัญของโลกคือ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่โคบัมบัสเดินเรือไปพบโลกใหม่ โดยเขากลับมาสเปนและขึ้นบกที่บาร์เซโลนาตรงท่าเรือนี้ ลักษณะของอนุสาวรีย์เป็นเสาหินสูง ตรงปลายเสามีรูปของโคลัมบัสหล่อด้วยบรอนซ์ เสาสูงประมาณ 60  เมตร ตั้งอยู่สุดปลายถนน La Rambla
Antoni Gaudi y Cornet เป็นสถาปนิกชาวสเปนที่มีชื่อเสียง (1852-1926) โดยเฉพาะผลงานแบบอาร์ตนูโว คุณจะพบเห็นผลงานของ Antonio Gaudi’s ได้ทั่วไปในเมืองบาเซโลน่า โดยเฉพาะผลงานมาสเตอร์พีชอย่าง Parc Guell และโบสถ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Sagrada Familia, bellesguard รวมทั้ง Casa Batllo ถือว่าเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ
Parc de la Ciutadella  ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองบาเซโลน่า เพราะสวนนี้เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม และอนุสรณ์สถาน คุณจะได้เห็นพืชไม้นานาพันธุ์, สวนสัตว์ มากมาย ในอดีตเคยเป็นฐานทัพทหาร